โรงละครกลางกรุงนิวยอร์คถูกสั่งปรับ 51,000 USD

NEW YORK – The U.S. Department of Labor's Occupational Safety and Health Administration has cited the David H. Koch Theater, located at the Lincoln Center for the Performing Arts in Manhattan, for alleged repeat and serious violations of workplace health and safety standards. The theater faces a total of $51,000 in proposed fines, chiefly for asbestos, fall and crushing hazards identified during an OSHA inspection prompted by worker complaints. See more on  
http://osha.gov/pls/oshaweb/owadisp.show_document?p_table=NEWS_RELEASES&p_id=18894

กระทรวงแรงงานสหรัฐ สั่งปรับโรงละคร เดวิด เอช โคช ที่ตั้งอยู่ในลินคอนเซ็นเตอร์ เป็นมูลค่า 51,000 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยในยามที่ค่าเงินบาทแข็งโป๊ก ก็แค่ประมาณ ล้านห้าแสนบาท ด้วยข้อหาละเมิดมาตรฐานความปลอดภัยและสุขภาพอย่างรุนแรง ด้วยการทำให้มีแอสเบสทอสร่วงลงมาแล้วแตกกระจายระหว่างการเข้าตรวจของ OSHA เนื่องจากมีพนักงานร้องเรียน  
OSHA ตรวจพบว่าพนักงานของโรงละครดังกล่าวและผู้รับเหมาจากภายนอกไม่ได้รับการเตือนให้รู้ว่ามีสิ่งเจือปนด้วยแอสเบสทอส (ACM-Asbestos Containing  material )ในบริเวณที่เรียกว่า Promenade และในตู้ไฟฟ้าใกล้เคียงบริเวณนั้น วัสดุพวกนั้นมีแอสเบสทอสเจือปนแต่ไม่มีการติดเลเบล บอกไว้ไม่มีการติดป้ายเตือน อีกต่างหาก มิหนำซ้ำ ประตูทางออกยังเปิดไม่สะดวกใช้การไม่ได้ ถังดับเพลิงไม่ได้แขวนในจุดที่กำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่เคยตรวจพบมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2009 และครั้งนั้นถุกสั่งปรับเป้นเงิน 45,000 USD มาแล้ว 

 

David H. Koch Theater

ครับนั่นคือข่าวอย่างเป็นทางการวันที่ 2 ธันวาคม 2010
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันครบรอบไฟไหม้ โรงเต้นระบำซานติก้าผับที่เมืองไทยอีกหน ผมอ่านข่าวข้างบน แล้วมานึกย้อนดูบ้านเมืองเรา ก็ให้รู้สึกว่า อะไรจะกันนักกันหนา บ้านกู (ปิ๊ด ก.บ.ว. ดูดเสียง) ไฟไหม้ คนออกไม่ได้ ถูกเผาทั้งเป็นตายเกลื่อน ยังไม่มีใครทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นี่แค่ไม่ได้ติดป้าย กับประตูทางออกฉุกเฉินฝืด โดนปรับซะเป็นล้าน  นี่อเมริกามันเวอร์ รึความปลอดภัยสาธารณะของบ้านกู (ก.บ.ว. ดูดไม่ทัน) ห่วยแตกกันแน่วะ


ถามไปยังงั้นแหละ รู้อยู่แล้วว่าบ้านเราเป้นยังงัย แต่แค่อยากจะเทียบให้ดูครับ ว่ามาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของบ้านอื่นเมืองอื่น ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กฏหมายไทยที่เกี่ยวกับแอสเบสทอส ฉบับที่ใหม่ที่สุด คือ ประกาศกระทรวงมหาดไทย ปี พ.ศ.2520 เรื่องความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม (สารเคมี) ในนั้นท้ายประกาศมีเรื่องเกี่ยวกับปริมาณความเข้มข้นของฝุ่นประเภทเส้นใยแอสเบสทอส กำหนดไว้ต่อปริมาณอากาศลูกมาศก์เมตร อนุญาตให้นายจ้างปล่อยให้ลุกจ้างสูดดมแอสเบสทอสได้ 5 เส้นใยต่อปริมาณอากาศ หนึ่งลูกบาศก์เมตร  ครับนั่นคือตัวเลขในตารางที่ 4 ผมเคยชี้ให้ดูเวลาบรรยายวิชาเกี่ยวกับกฏหมายความปลอดภัย ว่า ประเด็นที่หนึ่ง ความเก่าของกกหมาย นี่มันปีอะไรแล้วครับ ตัวเลขของปริมาณที่ให้สัมผัสได้ในกฏหมายไทยไม่เคยเปลี่ยนให้ปลอดภัยขึ้นเลย เหมือนตัวหนังสือบนป้ายหน้าหลุมศพยังัยยังงั้น ประเด็นที่สอง ผมเคยหยอกล้อกับเพื่อนฝูงชาวมาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิบปินส์ ว่า พวกเอ็งรู้มั๊ย ในภูมิภาคนี้ใครถึกที่สุด ทนต่อสารเคมีที่สุด ไม่มีใครเทียบครับ พี่ไทยนี่แหละ ที่อื่นๆ ห้ามสูดดมแอสเบสทอสได้ไม่เกิน 2 fiber แต่เมืองไทยให้การรับรองว่าสูดไปเถอะ 5 fiber ยังปลอดภัย แล้วยังงี้ใครถึกที่สุดครับ

เรื่องแอสเบสทอสนี่ บ้านเราไม่ตื่นตัว แต่ที่บ้านอื่นเมืองอื่นเขารับจ้างฟ้องฟรีๆ เรียกค่าเสียหายจากนายจ้างกันทีเป็นล้าน ผมเคยทำหน้าที่สอนและนำโครงการบริหารแอสเบสทอส ไปยังโรงงานที่อยู่ในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิค ทำสื่อการสอนไว้หลายชิ้นที่ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักแอสเบสทอส ตาสว่าง บางคนเดินผ่านมันทุกวัน ขัดถู ขูดมันทุกวัน สูดดมมันทุกวัน โดยหารู้ไม่ว่า ในที่สุดวันหนึ่ง เขาอาจจะเกิดมะเร็งในปอด มะเร็งที่เยื่อหุ้มปอด โดยไม่รู้เนื่อรู้ตัว  ทำไมนะหรือครับ ก็เพราะระบบกฏหมายที่ล้าหลัง ไม่มีความชัดเจน ไม่ละเอียด ผมไม่ว่าคนเขียนกฏหมายหรอกนะครับ เพราะหลายๆท่านก็อาจจะเป็นครูบาอาจารย์ และพอจะเข้าใจได้ว่าในยุคนั้นสมัยนั้น ปี 2515-2518 ยังเป็นยุคทหารเผด็จการครองบ้านครองเมือง กกหมายที่ออกกันมา จะหาสิ่งที่เป็นข้อมูลทางวิชาการมากๆคงยากครับ ใครสนใจอยากได้ข้อมูล วิธีการจัดการ Asbestos Management ก็บอกมานะครับ จะส่งไปให้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ALARP

IT for Safety management system

Don't Ask, Don't Tell