บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2010

ALARP

รูปภาพ
มีใครรู้จัก "อาหลาบ" (ALARP) บ้างมั๊ย  ไม่ต้องทำท่าคิดนานครับ  รู้จักก็พยักหน้า ไม่รู้จักก็ส่ายหน้า  หรือถ้ามีเชื้อแขก ถ้ารู้จักก็ส่ายหน้า ถ้าไม่รู้จักก็พยักหน้า คนโคราชถ้าไม่รู้จักก็ร้องดังๆว่า จ๊ากแล่ว  แต่ถ้าไม่รู้จักก้แค่ทำเสียงในลำคอว่า อือ อื่อ ALARP เป็นคำย่อในหมู่นักบริหารความปลอดภัยใช้พูดกัน เถียงกัน เวลาพูดถึงความเสี่ยง  มันย่อมาจากคำว่า A s L ow A s R easonably P racticiable แปลง่ายๆก็คือ เป็นความเสี่ยงที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้ อย่างสมเหตุสมผลและที่สามารถทำได้ แน่นอน มันอาจจะยังไม่ถึงขั้นที่กำจัดความเสี่ยงไปได้ทั้งหมด แต่อยู่ในระดับที่ยอบรับได้และเป็นที่ตกลงกัน ว่าจะยอมให้ดำเนินการต่อไปได้  อย่าลืมนะครับ การประเมินความเสี่ยงเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งของการบริหารความปลอดภัย ยังมีขั้นตอนอื่นๆอีก และที่สำคัญ ฝ่ายผลิตกับฝ่ายขายก็จ้องกระแนะกระแหนว่าพวกเซฟตี้ ดีแต่สั่งหยุด แล้วก็มานั่งทะเลาะ ไม่กินเส้นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคี ในหมู่ผู้บริหาร แล้วก็ลุกลามไปในระดับปฏิบัติการ ไปจนถึงระดับรากหญ้า เกิดปัญหา อำมาตย์กับไพร่ แล้วลงเอยถึงขั้นฝ่ายหนึ

IT for Safety management system

รูปภาพ
ระบบจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยด้วยเทคโนโลยีสาระสนเทศน์ ฟังแล้ว เป็นงัย ขนลุกเพราะคำศัพท์พวกนี้แปลเป็นภาษาไทยแล้วยิ่งสับสนกันเข้าไปใหญ่  ยกสถานการณ์จริงมาสักสองสามกรณี เผื่อจะเห็นประโยชน์ ว่าระบบการจัดการด้วย Information Technology สำหรับงานด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ทำให้คุณทำงานง่ายขึ้นขนาดไหน กรณีที่หนึ่ง   พนักงานคนหนึ่งถูกสารเคมีกระเด็นเข้าตา ถูกพาไปที่ห้องพยาบาล คอมพิวเตอร์ที่ห้องพยาบาลมีระบบรายงานการเจ็บป่วยและการบาดเจ็บทุกประเภทออนไลน์อยู่ พยาบาลเปิดข้อมูลดู เพื่อบันทึกรายละเอียด เกี่ยวกับชื่อพนักงาน และอื่นๆ เพียงแค่ใส่เลขประจำตัวพนักงาน หรือแค่ใช้บัตรพนักงานรุดที่เครื่องอ่าน รายการถูกคลี่ขึ้นมาบนหน้าจอ ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาบัตรโอพีดีการ์ด หน้าจอปรากฏประวัติการรับบริการของนายคนนี้อย่างละเอียดยิบ พยาบาลไม่รอช้า ให้การรักษา และบันทึกรายการลงไปในคอมพิวเตอร์อย่างไม่รีรอ ในเวลาเดียวกัน ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย ได้รับ MMS เตือนผ่านมือถือว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือมีป๊อบอัพที่หน้าจอหัวหน้าแผนกที่นายคนนี้ สังกัด พร้อมๆกัน บรรดาเหล่าพนักงานสอบสวนที่ผ่านการอบรมและขึ้นทะเบี

กระโปดข้า ใครอย่าแตะ

รูปภาพ
หลังจากเหตุการ์ณ 9-11 ที่สมุนของบินลาเดน กระทำการขับเครื่องบินถล่มตึกคู่ระฟ้ากลางมหานครนิวยอร์ค ตามมาด้วยแผนก่อการร้ายสารพัดรุปแบบ ล่าสุด การส่งระเบิดยัดใส้หมึกปริ้นเตอร์มาจากเยเมน ทั่วทั้งโลก ก็อยู่ในอารมย์เดียวกันหมด มาตรการตรวจเข้ม ถุกงัดขึ้นมาใช้สกัดการลักลอบนำสิ่งแปลกปลอมขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารต้องผ่านเครื่องตรวจเอกเรย์ที่มองทะลุผ่านไปถึงสัดส่วนใต้เสื้อผ้าอาภรณ์ ผู้คนออกมาโวยวายว่านี่คือการล่วงเกินความเป็นส่วนตัว และล่าสุด TSA งัดมาตรการสำรองเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ประสงค์จะเดินผ่านเครื่องตรวจที่ว่า ก็จะต้องผ่านการตรวจแบบที่เรียกว่า Pad Down หรือภาษาไทยเรียกว่าการลูบไล้ลูบลง เจอแบบนี้เข้า ผู้คนที่ผ่านการตรวจด้วยเทคนิคการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม พากันร้องจ๊าก เป็นภาษาอเมริกันว่า "Don't touch my junk" แปลเป็นภาษาหนังกังฟูบ้านเราได้ว่า กระโปดข้าใครอย่าแตะ  ที่หยิบเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะว่า ละเหี่ยใจกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น การกระทบกระทั่งระหว่างผู้ปฏิบัติตามหน้าที่ กับผู้ใช้บริการสายการบิน ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง การปล่อยให้มีวัตถุระเบิด ขึ้นไปบนเครื่องบินได