ชีวิตช่างเชื่อม กับ ไอ้กร๊วก
อดขำไม่ได้พอเห็นวิดีโอที่คนงานทำขึ้นแล้วใส่เพลงเข้าไป แล้วอัพโหลดขึ้นไปไว้ในยูทูป
มันต้องอ่านว่า ยิวทิวบ์เบอะ ทำปากคล้ายคล้าย ทวารเป็ด ตอนออกเสียง ยิว...
คนงาน ระบายความรู้สึกเกี่ยวกับผู้บริหารอย่างเสรี ข้างฝาห้องน้ำ ฝาปิดชักโครก จะปรากฏคำสรรเสริญผู้จัดการโครงการ และหัวหน้าบางคนอย่างเอาจริงเอาจัง ส่วนใหญ่จะสรรเสริญในประเด็นเรื่องการเอารัดเอาเปรียบ ความฉ้อฉล และความไร้มนุษยธรรม มันเหมือนเฟสบุคที่ทุกคนมีส่วนร่วม ระบายทุกอย่างออกมา เป็นกลอนบ้าง ด่าบ้าง แล้วแต่ว่าผู้จัดการคนไหนเรทติ้งดีที่สุด
มีกลอนหนึ่งในห้องน้ำ เขียนไว้ว่า
เมียอยู่บ้าน หน้าขาวเป็นไข่ปอก ผัวทำงานเมืองนอก หน้าลอกเหมือนงูสิงห์
แดดที่เกาะจูร่งแรงมาก ตอนเที่ยงยิ่งหนัก ร้อนระอุราวกับดวงอาทิตย์จะตกลงมาใส่หัว พอตกบ่ายหน่อยฝนก็จะคลึ้มแล้วตกมาแบบไม่ลืมหูลืมตา พักเดียว ฟ้าใสแจ๋ว แดดเปรี้ยงเหมือนเดิม
แรกๆ ช่างเชื่อมบางคน จะไม่ค่อยสุงสิงกัน พวกช่างเชื่อมจะนั่งเฉยๆ ระหว่างที่ช่างประกอบทำการติดตั้ง หยิบ ยก ดึง ดัน ตอก แหย่ มุด ฉุด กระแทก ไม่สนใจที่จะร่วมพูดคุย วิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย แม้กระทั่ง จะลงชื่อในแบบบันทึกการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย เวลาเชื่อม ไม่ชอบใส่เอี๊ยมหนัง ปลอกแขน หรือหน้ากาก แม้จะพร่ำบอกว่าในควันเชื่อม มีฟูมโลหะหนักตัวแสบๆหลายตัว อย่างโครเมียม นิเกิล แคดเมียม ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาว เช่นมะเร็ง, โรคพาร์คินสัน มือไม้สั่นเหมือนสันนิบาตลูกนก โน้มน้าวสาระพัดก็ยังเฉย สุดท้ายพอยกตัวอย่างว่าโรคมือสั่นที่ว่า มันไม่ได้สั่นเฉพาะที่มือ อย่างอื่นก็สั่น แถมไม่สู้อีกต่างหาก เท่านั้นแหละ ได้ผล คงจะเกี่ยวกับกลอนข้างบนนั่นแหละ มันกลัวสั่น กลัวเมียทิ้ง มีอยู่คนหนึ่ง มีอาการนิ้วล็อก หรือที่เรียกว่าทริกเกอร์ฟิงเกอร์ เกิดจากการใช้งานอุปกรณ์ที่มีความสั่นสะเทือนมากๆ เช่นเครื่องเจียร์ วันหลังจะเล่าให้ฟัง
คลุกคลีตีโมงกับคนงานมาพักใหญ่ เลยใกล้ชิด หยอกเย้ากันได้ ทำให้บรรยากาศความปลอดภัยไม่เครียด เหมือนพี่เตือนน้องมากกว่าที่จะต้องดุ หรือตำหนิกัน อาจจะเป็นเพราะว่า พวกเขาสามารถเข้ามาหาแล้วบอกเล่าถึงความไม่สะดวก เวลาเจ็บป่วยก็ช่วยเป็นธุระพาไปหาหมอ แปลให้ฟัง พาส่งโรงพยาบาลบ้าง ไอ้พวกดื้อๆก็หายดื้อ
พวกนี้ได้รับแจกชุดฟอร์มคนละสามชุด ทำงานหกวัน สิบชั่วโมงต่อวัน อยู่มาแบบนี้ปีกว่า เสื้อผ้าขาด วิ่นกระดุมหลุด เสื้อหด เอวลอย นั่งทีไรง่ามตูดโผล่ บริษัทไม่มีแจกใหม่ เพราะประหยัดงบ ขนาดรองเท้าเซฟตี้ยังให้ไปคุ้ยเอาคู่เก่าๆ มาจับคู่ที่จังพอใส่ได้ ไม่ให้เบิก ไม่สั่งซื้อ ไอ้พวกเอวลอยก็ให้ใส่เสื้อสองชั้น กันเห็นง่ามตูด กลัวลูกค้าตำหนิ พวกกระดุมหลุด แขนเสื้อขาด ก็ให้มาเบิกกระดุม กับด้ายไปเย็บเอา แต่ส่วนใหญ่คนงานจะเอาเทปปะเอา เห็นแล้วสงสาร จึงไม่แปลก ที่จะมีการระบายในห้องน้ำแบบเต็มที่ ตรงไปตรงมาเป็นที่สุด เช่น ไอ้หัว.....(เซ็นเซอร์)
ชุดกันฝนที่สั่งซื้อมาให้ร่วมสามร้อยตัว ไม่มีใครเบิกไปใช้ เดินตากฝนกันโทงๆ เอาถุงดำคลุมหัว พอซักไซ้ไล่เรียง ก็ได้ความว่า ผู้จัดการเขาไม่อนุญาตให้เบิก อนาถใจ
มีอยู่คราวหนึ่ง ผมพบว่ากระบอกอบลวดเชื่อมเกือบสามสิบแปดตัว มีสายไฟที่ก้นกระบอกเปื่อย สายสั้นเติ่ง เสียบปลั๊กแต่ละทีก็ดึงรั้ง สายโผล่ออกมาจากเคบิ้ลแกลนด์ อยู่ในสภาพที่อันตราย แจ้งผู้จัดการไปหลายรอบ ก็เฉยเสีย ไม่หือไม่อือ สุดท้าย เลยต้องเอาคีมตัดสายพวกนั้นทิ้ง ตัดเป็นชิ้นสั้นๆ ชิ้นละสองคืบจะได้ไม่เอาไปต่อใหม่โดยไม่เปลี่ยนขนาดสายให้ใหญ่ขึ้น ได้ผลเกินคาด เปลี่ยนสายภายในครึ่งชั่วโมง แถมบ่นหาว่าเราทำเกินกว่าเหตุ (เรานึกในใจ ว่าถ้ากูไม่ทำ มึงก็ไม่แก้ไข ไอ้เวรรรรร)
ป้องกันคนถูกไฟช็อตตาย เนี่ยนะทำเกินเหตุ แล้วไอ้ที่ขี้ตืดเอาเปรียบคนงานสารพัด ไม่เกินเหตุหรอกรึ
เท่าที่ประเมิน คนที่ดื้อ โดยกมลสันดานมักไม่ใช่คนงาน แต่มักจะเป็นพวกผู้บริหารเสียมากกว่า เข้าทำนอง ทำกำไรบนหลังคน พวกนี้ เงินเดือนสูงๆ เรียนมามาก แต่มักเอาความได้เปรียบทางสังคมมากดขี่คนที่ต่ำกว่า สำหรับผม คนพวกนี้น่ารังเกียจที่สุด ที่ไหนๆก็มีคนแบบนี้เต็มไปหมด (ไอ้กร๊วกกกกก)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น